และนี่ก็คือหนังที่เขาว่ากันว่า…หลอนที่สุดในปี 2023 นี้แล้ว มันคือหนังสยองขวัญเล็ก ๆ จากออสเตรเลียที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ความกลัวได้ระดับโลกใน “Talk to Me จับ มือ ผี” ที่ถือว่ามาพร้อมกับไอเดียที่ค่อนข้างแปลกใหม่ในวงการหนังผีสมัยนี้ แม้ว่าอันที่จริงมันก็เป็นการผสมผสานแนวคิดมาจากหนังคลาสสิกดัง ๆ ก่อตัวมาเป็นความหลอนที่ร่วมสมัยมากขึ้น ด้วยรสชาติที่กำลังเหมาะเจอะพอดี
Talk to Me จับ มือ ผี เป็นเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นได้ค้นพบวิธีปลุกเสกดวงวิญญาณด้วยความเชื่อบางอย่าง กลายเป็นว่าพวกเขาตื่นตาตื่นใจกับผลลัพธ์และปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่ได้เรียนรู้ใหม่ กระทั่งมันล่วงเกินไปไกลกว่าที่พวกเขา นำไปสู่การเปิดประตูสู่โลกแห่งวิญญาณอันน่าสยดสยอง ที่ทำให้พวกเขาต้องถูกบีบบังคับให้ตัดสินใจเลือกว่าจะไว้วางใจใคร ระหว่างคนเป็นหรือคนตายในการจะมีชีวิตให้รอด
ผลงานชิ้นนี้ถือว่าเป็นงานสร้างหนังใหญ่เรื่องแรกของพี่น้องผู้กำกับชาวออสเตรเลีย อย่าง “แดนนี ฟิลิปปู” กับ “ไมเคิล ฟิลิปปู” ที่สั่งสมประสบการณ์จากการทำหนังสั้นมาหลายปี และนับว่าเป็นการเดบิวต์เปิดตัวได้อย่างงดงาม กลายเป็นหนังเล็ก ๆ ที่สร้างแรงอิมแพคได้ยิ่งใหญ่กับคอนเซ็ปต์ที่ค่อนข้างสร้างแรงจูงใจและความสนใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี
โดยหนังเรื่องนี้มี แดนนี ฟิลิปปู ร่วมเขียนบทหนังกับทีมด้วย กลายมาเป็นหนังที่สามารถสร้างบรรยากาศและความเชื่ออันน่าสยดสยองได้ค่อนข้างกลมกล่อม ถึงแม้ว่าประเด็นอะไรแนว ๆ นี้จะไม่ใช่อะไรใหม่สักเท่าไหร่ หากจะเปรียบกับภาพรวมของวงการหนังสยองขวัญไทย เพราะความกลัวอะไรทำนองนี้นั้น หนังไทยก็เคยสร้างอะไรแบบนี้มาบ้างแล้ว แต่จะค่อนข้างสดใหม่มากกว่าในฝั่งหนังฝรั่ง
หากจะเลือกสัมผัสแค่ประเด็นความหลอนในหนังเพียงแค่นั้นก็ทำได้ แต่กระนั้นก็ยังใส่ประเด็นการเติบโตในชีวิตและสังคมวัยรุ่นเข้ามาอย่างแยบยลด้วย ภายใต้บรรยากาศความน่ากลัวของตัว ยังมีกลิ่นอายความดราม่าและการค้นหาตัวเองแบบลึก ๆ ผ่านการเล่าเรื่องโดยตัวละครนำเรื่องนี้ ที่เป็นจุดที่สร้างมิติที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นให้กับหนังเรื่องนี้ ไม่ได้จะมาขายแค่เพียงประเด็นผีอย่างเดียว
ฝั่งการแสดงถือว่าน่าพอใจไม่น้อย แม้ว่าโดยส่วนใหญ่จะเป็นนักแสดงฝั่งออสเตรเลียที่เราอาจจะไม่ได้คุ้นเคยกับพวกเขามากนัก แต่ถือว่าเป็นทีมแคสติ้งที่ค่อนข้างเหมาะเจาะลงตัวในแต่ละบทบาทได้เป็นอย่างดี “โซฟี ไวล์ด” แบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้เป็นอย่างดี มากับการแสดงน้อยแต่มากของเธอ ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบไหนก็ถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างถึงใจ
ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบก็ค่อนข้างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น “อเล็กซานดรา เจนเซน”, “โจ เบิร์ด”, “มิแรนดา ออตโต” หรือ “โซอี เทราเคส” ที่ถือว่าเป็นองค์ประกอบเสริมที่ช่วยบิวต์อารมณ์ของหนังได้ดีไปตลอดทั้งเรื่อง และนับว่าก็มีชั้นเชิงทางด้านแสดงอีกส่วนที่มาช่วยเติมเต็มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างของหนังได้มั่นคงยิ่งขึ้น
Talk to Me อาจจะเป็นหนังที่มีงานโปรดักชันพื้นฐานแบบง่าย ๆ ไม่ได้มีอะไรหวือหวาเท่าไหร่นัก แต่บนงานสร้างแบบธรรมดาเนี่ยแหละที่น่าจะเป็นการแสดงความจริงใจออกมาอย่างตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องใช้เอคเฟคหวือหวาอะไรมากมายก็หลอนได้ เพราะยังสามารถทำการหลอนได้จากตัวบทหนังและการแสดงเป็นหลักได้อยู่ หลอนแบบไม่ต้องหลอกซับซ้อนให้เหนื่อยอะไรมากมาย แต่เพียงแค่นี้หนังก็ทำให้คนดูหายใจไม่ทั่วท้องได้ในระดับหนึ่งแล้ว
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก trueid
